การเรียนต่อต่างประเทศ หรือ Study Aboard คงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เด็กไทยหลายคนใฝ่ฝันจะไปให้ได้สักครั้งในชีวิต บ้างก็อยากไปเพราะต้องการพัฒนาระดับภาษา บ้างก็ไปเพื่อต่อยอดแนวทางการทำงานในอนาคต และอีกหนึ่งเหตุผลนั่นก็คือการหาประสบการณ์ให้กับชีวิต ใช่แล้วล่ะค่ะ ความรู้หาที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้แต่ประสบการณ์ใหม่ๆเราต้องค้นหามันด้วยตัวเราเองในเวลาที่ใช่เท่านั้น
การเรียนต่อจึงเป็นอีกหนึ่งวิธียอดฮิตมานานแสนนาน เด็กไทยหลายแสนคนเลือกไปเรียนต่อในต่างประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จนหลายคนคงเคยได้ยินบุคคลในนาม Agency ที่คอยให้คำปรึกษาและเป็นธุระจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย หรือเรียกได้ว่า เป็นคนกลางในการสานฝันเป้าหมายของเด็กคนนึงในการเรียนต่อเลยก็ว่าได้
แต่... ก็มีอีกหลายต่อหลายคนที่เลือกจะชาเลนจ์ตัวเอง ลงมือทำเองตั้งต้นจนจบ ลำบากหน่อยแต่สนุกใช่เล่น! แล้วทีนี้แบบไหนมันมีดีหรือแย่อย่างไร ? เราควรเริ่มจากวิธีไหนดีนะ!!
>> การเรียนต่อต่างประเทศ ด้วยตนเอง
วิธีแรกคือการไปด้วยตนเอง “ไปด้วยตนเอง” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ไปคนเดียว แต่หมายถึง การลงมือทำขั้นตอนทุกอย่างด้วยตัวเอง ตั้งแต่กรอกใบสมัคร ยื่นเอกสาร ติดตามผล สแกนนิ้ว ซื้อตั๋ว ติดต่อโรงเรียน บลาๆๆๆ เรื่องสารพัน 108 ที่เราต้องเจอ เราต้องจัดการมันด้วยตนเอง วิธีนี้เป็นวิธีที่ดูจะเซฟเงินไปได้มาก แต่ไม่เซฟเวลาเอาเสียเลย เพราะเราต้องตรวจเช็คด้วยตัวเราเองทุกขั้นตอน หากใครที่ไม่มีเวลาหรือปรสบการณ์มาก่อน คงต้องเซย์บายไปก่อนนะคะ เพราะอาจจะทำให้เสียเวลา เผลอๆเสียเงินอีกด้วยหากเรายื่นผิดยื่นถูก!
วิธีนี้ทำได้ไหม ?
>> ทำได้ค่ะ แต่จะเหมาะกับคนที่เคยมีประสบการณ์ในการเรียนต่อในประเทศนั้นๆแล้ว รู้กระบวนการหรือศึกษามาอย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว เพราะในบางประเทศอย่าง ออสเตรเลีย ต่อให้โปรไฟล์ดีแค่ไหน แต่คุณไม่รู้ขั้นตอนที่ถูกต้องจริงๆก็มีสิทธิ์โดนปฏิเสธวีซ่าได้ แถมเสียเงินเสียเวลาอีกด้วย
แนะนำ !
สำหรับใครที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่มีความชำนาญในด้านนี้ จะไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้นะคะ นอกเสียจากจะศึกษาอย่างดีมากๆ และที่สำคัญในบางสถาบันในต่างประเทศนั้นต้องติดต่อผ่านตัวแทนหรือพาร์ทเนอร์เท่านั้น เราไม่มีเครดิต หมดสิทธิ์นะคะ TT
>> เรียนต่อในต่างประเทศ แบบผ่านเอเจนซี่
วิธีที่เด็กไทยเกือบ 100% ใช้ เป็นวิธีที่ปกติมากสำหรับใครที่อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ เนื่องจากกระบวนการที่แสนจะซับซ้อนทั้งขั้นตอนติดต่อสถาบันอื่นๆไปจนถึงยื่นวีซ่า สารพันปัญหาที่จะเกิดขึ้น เราไม่ต้องเสียเวลาสะสางด้วยตัวเอง Agency จะเป็นเหมือนผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญในการเรียนต่อโดยเฉพาะ ที่จะเข้ามาจัดการขั้นตอนต่างๆให้ง่ายขึ้น สิ่งที่เราต้องทำเพียงรวบรวมเอกสารสำคัญ ประวัติ ส่งต่อให้ทางเอเจนซี และรีรอเพียงเวลา
วิธีนี้ดีไหม ?
แน่นอนว่าดีอยู่แล้ว เพราะประหยัดเวลาไปได้มากกว่าการลงมือทำด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ถึงแม้จะเซฟเงินได้ไม่เท่าวิธีแรกแต่วิธีนี้ก็ถือว่าทำให้เรามีโอกาสได้ไปเรียนมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ชัวร์ๆ โปรไฟล์ใครดีอยู่แล้ว เอเจนซีก็จะเป็นเหมือนแมวมอง ผลักคุณให้ไปถึงฝั่งฝันจนได้ หรือหากใครมีแค่ความฝัน เอเจนซีก็จะหยิบยกประเด็นแผ่หลาให้ผู้ตัดสินวีซ่าดูว่าเรามีความมุ่งมั่นแค่ไหนและนั่นเองจะทำให้เราทำตามฝันได้สำเร็จในที่สุด
หากถามว่าทำไมโอกาสได้ไปถึงสูงกว่าวิธีแรกนัก ง่ายๆเลยค่ะ เอเจนซี เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและทำงานด้านนี้โดยตรง ก็เหมือนกับว่าเราจะทำสิ่งไหนก็ต้องไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญสิ่งนั้น การเรียนต่อก็เช่นกัน เอเจนซีมองโปรไฟล์เราก็ดูออกแล้วว่าจะผลักเราไปทางไหนดี ความสำเร็จจึงไม่ไกลเกินเอื่อม
แนะนำ!
เอเจนซีในประเทศไทยมีหลากหลายสถาบันมาก แน่นอนว่าแอดมินไม่สามารถพูดได้ว่าสถาบันไหนดีที่สุด แต่อยากจะแนะนำให้เราลองเข้าไปพูดคุย ปรึกษา และใช้วิจารณญาณตัวเราเองว่าเรารู้สึกถูกใจกับสถาบันไหน ก็เลือกสถาบันนั้นได้เลยค่ะ
สุดท้ายนี้ ทั้ง 2 วิธีก็ถือว่ามีข้อดีและข้อด้อยกันไปคนละแบบละทาง หากใครที่มีประสบการณ์หน่อย อยากจะลองทำด้วยตนเองดูบ้างก็ไม่เสียหาย หากใครไม่เชี่ยวชาญเลยก็อยากให้ลองมีผู้ช่วยดูสักหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะวิธีไหนก็จะช่วยจุดประกายให้เราเดินต่อในทางที่หวังได้เสมอ
Comments